| | ประวัติหลินซินหยู | |
| | เธเธนเนเธเธฑเนเธ | เธเนเธญเธเธงเธฒเธก |
---|
Ruenruthai ศิษย์หอจตุรเทพ
Number of posts : 158 Points : 0 Reputation : 0 Registration date : 26/04/2008
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: ประวัติหลินซินหยู Wed Apr 30, 2008 5:44 pm | |
| บอร์ดบ้านหลักของหลินซินหยู คลิก ----> http://alecthaifans.rapidboards.com/index.php?showforum=17 หลินซินหยูส่วนสูง / น้ำหนัก : 167 cm / 44 kg กรุ๊ปเลือด : บี สัดส่วน : 32B-22-34 อาชีพ : นักแสดง, นางแบบ และนักร้อง สถานที่เกิด :ไทเป, ไต้หวัน ภาษา : จีนกลาง, กวางตุ้ง และอังกฤษ การศีกษา (ประถม) : Ri Xin การศีกษา (มัธยม) : Zhong Dian High School การศึกษา (อื่นๆ) : Embasy CES NY and Newyork Art School เครื่องดื่มสุดโปรด : น้ำเปล่า, ชา, น้ำองุ่น ของสะสม : นาฬิกาข้อมือ และรองเท้า สัตว์ที่กลัวที่สุด : งู เสื้อผ้าตัวโปรด : เสื้อยืด, กางเกงยีนส์ สีที่ชอบ : ขาว, เทา, ดำ, แดง อาหารขอบทาน : ขนมไต้หวัน, อาหารญี่ปุ่น นักร้องในดวงใจ : มารายห์ แครี่ กับ เลสลี่ จาง นักแสดงที่ชื่นชอบ : จางมั่นอี้ว์, ทาคุยะ คิมูระ, เลสลี่ จาง เพลงโปรด : เพลงของหวังเฟย กิจกรรมที่ชอบ : ร้องเพลง ดูทีวี งีบหลับ ชอปปิ้ง แสดงหนัง ความใฝ่ฝัน : อยากเรียนต่อต่างประเทศ การ์ตูนที่ชื่นชอบ : Hello Kitty & My Melody รักครั้งแรก : อายุ 17 ปี ประเทศที่อยากไป : นิวซีแลนด์ , อเมริกา เลขนำโชค : 7 ดอกไม้ที่ชื่นชอบ : ดอกลิลลี่ ฮีโร่ในดวงใจ : คุณแม่ วันที่ชอบ : วันเกิด ผู้ชายในสเป็ค : ซื่อสัตย์ จริงใจ ร่าเริง สิ่งที่ครอบครัวเป็นห่วง : อยากให้เธอมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง หากมีโอกาส ก็อยากจะให้เธอกลับไปเรียนต่ออีกครั้ง ครอบครัว : พ่อ, แม่ และน้องชาย 2 คน สังกัด : HY.Brothers ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เนเธเนเนเธเธฅเนเธฒเธชเธธเธเนเธเธข Ruenruthai เนเธกเธทเนเธญ Sat May 31, 2008 10:03 am, เธเธฑเนเธเธซเธกเธ 3 เธเธฃเธฑเนเธ | |
| | | Ruenruthai ศิษย์หอจตุรเทพ
Number of posts : 158 Points : 0 Reputation : 0 Registration date : 26/04/2008
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: ประวัติหลินซินหยู Wed Apr 30, 2008 7:03 pm | |
| Ruby Lin ชื่อภาษาจีนคือ 林心如 เขียนแบบพินอินคือ Lin Xīnru เกิดวันอังคารที่ 27 ม.ค 2519 (1976) เกิดที่กรุงไทเป ประเทศใต้หวัน เป็นดารานักร้อง จากประเทศใต้หวัน ชื่อภาษาอังกฤษของเธอ เธอตั้งขึ้นมาเองตามความชอบของคุณแม่ คือ คุณแม่หลินชอบเครื่องประดับประเภทจิวเวอรี่ ทับทิม เข้าวงการครั้งแรกจากการถ่ายโฆษณาที่ใต้หวัน , ในปี 1996 ซินหยูก็ยังคงเป็นนักแสดงตัวประกอบ จนกระทั่งได้มีโอกาสแสดงเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ก็ทำให้ชื่อของเธอเป็นที่รู้จัก และไม่ได้แค่ใต้หวันเท่านั้น หลินซินหยูโด่งดังไปทั่วเอเชียเลยทีเดียว หลังจากนั้น หลินซินหยูก็ก้าวขึ้นมาในฐานะการเป็นนักร้อง ด้วย
หลินซินหยูได้รับบทบาทการแสดงอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะรับบทจอมแก่นอย่างองค์หญิงเจี้ยนหนิง ในเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อ นักฆ่าเลือดเย็น อย่าง เซี่ยไฉ่เยี่ย เรื่องมีดบินทะลุฟ้า เป็นผู้หญิงอบอุ่น อ่อนโยน เก็บกด อย่าง มั่นเจิน เรื่อง Eighteen Springs รวมถึงแสดงบทที่เป็นหญิงสาวไปถึงแก่ ในเรื่อง Ancestral Temple จนเมื่อหลังปี 2006 เธอก็ได้เปลี่ยนจากจอแก้วมุ่งสนใจทางด้านจอเงิน
ประวัติชีวิตช่วงแรก ๆ
หลินซินหยูเกิดในประเทศใต้หวัน พ่อของเธอเป็นพนักงานบริษัท และเธอมีน้องชาย 2 คน ครอบครัวของเธอแยกทาง พ่อแม่อย่าร้างแยกกันอยู่ และเธอต้องอยู่กับแม่ ตอนที่เธอเป็นเด็ก ทุกปีแม่ของเธอมักจะพาเธอไปเยี่ยมญาติที่ประเทศญี่ปุ่นเสมอ ๆ ซึ่งเครือญาติของเธออยู่ที่ญี่ปุ่นเยอะพอสมควร ซึ่งเธอก็ชอบมากที่จะเดินทางไปหาพวกเขาที่นั่นบ่อย ๆ หลินซินหยูจบการศึกษาจากร.ร ประถาม ยี่ซิน และร.ร. มัธยมจาก ร.ร จงเตี้ยน ซึ่งสมัยที่เธอยังเรียนอยู่เธอก็ทำงานในวงการโฆษณาเกี่ยวกับการถ่ายแบบ เป็นงานอดิเรก ตั้งแต่อายุ 17 ปี โฆษณาชินแรกคือ โฆษณาเครื่องดื่มชา Jasmine ซึ่งคนในครอบครัวไม่เคยเห็นด้วยกับการที่ลูกสาวเข้ามาทำงานในวงการ จนเมื่อเธอได้ทำงานโฆษณาของ Jasmine รวมถึงผู้จัดที่ดูแลเธอเป็นอย่างดี ทางครอบครัวจึงค่อย ๆ ยอมรับและ เห็นด้วยในที่สุด จนเธอสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย เธอจึงสนใจที่จะเข้ามาทำงานในวงการอย่างจริงจัง และเธอก็ได้ตกลงทำสัญญากับบริษัท Jessie and Jones Entertainment Ltd. เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
ด้านการงาน (ช่วง 1994-1996)
หลังจากงานโฆษณาชิ้นแรกได้ออกอากาศไปนั้น เธอก็ได้รับความสนใจจากผู้กำกับหนัง และ ทางด้านอื่น ๆ ในวงการ ปี 1995 เธอก็มีโอกาสได้เล่นหนังเรื่องแรกคือเรื่อง School day ร่วมกับ หลินจื้ออิง และ จินเฉิงอู่ และในปีเดียวกัน เธอก็ได้เล่นละครซึ่งยังคงเป็นตัวประกอบณ ตอนนั้น จากปี 1995-1997 บทบาทที่ได้รับเล่นคือตัวประกอบ ซึ่งถือว่า เป็นดาราหน้าใหม่ในขณะนั้น ในปี 1996 หลินซินหยูต้องการไปทำงานที่จีนแผ่นดินใหญ่ เพราะเธอคิดว่า ที่นั่นจะให้ประสบการณ์การทำงานที่ดีแก่เธอได้ และก็จะได้เรียนรู้ทางด้านการแสดงที่มากขึ้นด้วย
ตอนที่ฉันอยู่ม.ปลายนั้น ฉันต้องรับงานหนังและทีวี ตอนแรกที่ฉันเห็นสคริปแล้ว ทำเอาฉันนอนไม่หลับเลย ซี่งฉันก็คิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ทำในสิ่งนี้เหมือนกัน และก็พยายามไม่ให้ด้มีผลกระทบต่อการแสดงในแต่ละวัน ทำให้ฉันต้องทำ และ ต้องพยายาม คิดว่าถ้าวงการการแสดงไม่ได้มีความหมาย หรือค้นพบว่าไม่ใช่ ฉันก็คิดว่าจะเรียนอย่างเดียว แต่เมื่อได้ทำไปแล้วฉันคิดว่า อื่ม .. มันไม่ได้ยากเลย และตอนนั้น หนังที่ฉันได้รับเล่น มีฉากอยู่ในร.ร มีเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน แต่บางฉากเช่น ต้องพูดลุกขึ้น , ทำความเคารพ , ต้องทำซ้ำ ๆ เป็น 10-20 เทค แน่ะ ฉันกลัวมากว่าผู้กำกับจะดุหรือตำหนิฉัน ซึ่งมันจะเป็นความรู้สึกที่แย่มากสำหรับฉัน (Taiwan FTV Interview in 2003)
ปี 1997-2001
หลังจากที่ได้รับเล่นบทตัวประกอบหรือบทหนังเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว ในปี 1997 หลินซินหยูก็ได้รับคัดเลือกจากนักเขียนชื่อดัง ฉงเหยา ให้มาเทส ในละครของเธอ ในบทบาทของ องค์หญิงจื่อเว่ย ในเรื่ององค์หญิงกำมะลอ ทำให้เธอกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงขึ้นมาทันทีในใต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง เกาหลี รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ , แต่เดิมนั้น ฉงเหยา ได้วางให้ ซินหยู เล่นในเรื่ององค์หญิงกำมะลอในบทของ ไซย่า แต่ด้วยที่ว่านักแสดงตัวหลักที่วางไว้ไม่สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้ทีมงานต้องเทสคัดเลือกใหม่ จึงลงตัวที่ หลินซินหยู เหมาะสมที่สุดที่จะได้รับเล่นในบทเป็น องค์หญิงจื่อเว่ย และหลังจากซีรี่ย์เรื่ององค์หญิงกำมะลอ ได้แพร่ออกอากาศกระจายไปทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ ก็ส่งผลทำให้ หลินซินหยู เป็นที่สนใจและรู้จักขึ้นมาทันทีทันใด
หลังจากที่ฉันตัดสินใจรับเล่นในบท จื่อเว่ยแล้ว ฉันก็ได้รับบทเอามาอ่าน 3 วันก่อนแสดง ฉันอ่านบทไปร้องไห้ไปในเวลานั้น , ทำไมบทที่ได้รับมันเยอะขนาดนี้ ฉันไม่เคยได้รับบทที่เยอะขนาดนี้มากก่อน อย่างไรเสียที่ผ่านมาถึงจะเยอะก็จะแค่บทนึง 1-2 บรรทัดเท่านั้นเอง และก็ต้องได้ไปอยู่ในสถานที่ที่เป็นชนบท ในเรื่องนี้ฉันต้องใช้เวลาถ่ายทำเป็นเวลานาน ไม่รู้จักใคร ไม่มีเพื่อนที่สนิทคุ้นเคย ทำให้รู้สึกหมดกำลังใจอย่างมากเลยทีเดียว (Taiwan Cover story Interview in 2001)"[5]
หลังจากที่เธอประสบความสำเร็จในด้านการแสดงบทละครโทรทัศน์แล้ว ในปี 2000 เธอก็ได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับ TVB Hong Kong ในเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ ซึ่งได้ร่วมงานกับ จางเหว่ยเจี้ยน , ซูฉี และดาราที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย ในเรื่องนี้ หลินซินหยูรับบทเป็น องค์หญิงเจี้ยนหนิง ซึ่งเป็นบทจอมแก่น แสนซน และสนุกสนาน ซึ่งเธอแสดงออกมาได้อย่าง เป็นธรรมชาติ น่ารัก และประสบความสำเร็จอย่างมาก จากอีกภาพนึงที่เราเห็นเธอจากเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ จากนั้นก็ได้มาร่วมงานกับ ฉงเหยา ในเรื่อง มนต์รักในสายฝน หลินซินหยู ได้รับการโหวตอยู่ 1 ใน 10 ของดาราที่มีชื่อเสียงในฐานะ Asian Superstars 2 ปีซ้อน (2000-2001) หลังจากนั้นเธอก็ได้มีอัลบั้มเพลงออกสู่สาธารณะชน
และหลินซินหยูคิดว่าเธอก็ประสบความสำเร็จในด้านการแสดงในส่วนของละครโทรทัศน์แล้ว และเธอก็ได้ก้าวเข้าไปเล่นภาพยนต์ที่ฮ่องกง ในปี 2000 หลินซินหยู ได้เล่นหนังที่ฮ่องกง 3 เรื่อง และในปี 2001 เธอก็ได้ร่วมแสดงในหนังแนวแอ็คชั่นเรื่อง China Strike Force กับกัวฟู่เฉิง และนักร้องใต้หวัน หวังลี่หง ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เธอได้รับบทน้อยเป็นตัวประกอบ แต่เธอก็บอกว่า เป็นประสบการณ์ที่น่าเรียนรู้สำหรับเธอ และนี่ก็เป็นการบุกตลาดฮ่องกงของเธอ
ปี 2002-2005
ในปี 2002 เธอมุ่งสนใจมาที่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งในปีนี้ซินหยูได้รับเล่นละคร 3 เรื่อง Eighteen Springs, Boy & Girl (เมืองนี้มีแต่รัก), และ Flying Dagger (มีดบินทะลุฟ้า) ซินหยูได้รับเลือกในเรื่อง Eighteen Springs เวอร์ชั่นละครซีรี่ย์ ซึ่งเคยทำเป็นเวอร์ชั่นหนังประสบความสำเร็จมาแล้วโดย Ann Hui ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในเอเชีย สำหรับหลินซินหยูแล้ว ถือว่าเป็นบทบาทที่ท้าทายความสามารถของเธอ
สำหรับบทบาทที่ได้รับเล่น ซี่รี่ย์ที่เล่นแล้วรู้สึกกดดันมาก ก็คือเรื่อง Eignteen Springs เพราะว่า ในเรื่องนี้บทที่ฉันได้รับ ต้องมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง และมีอารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการที่มีค่ามาก ๆ และในบทบาทนี้ ฉันต้องใส่ใจ และพยายามอย่างมากที่จะแสดงออกมาตามตัวละครที่ได้รับ เมื่อพยายามแล้ว ความกดดันต่าง ๆ ก็หายไป (Interview Jun 25th, 2003)
ในเรื่องนี้ก็ทำให้หลินซินหยูเป็นที่นิยม มีชื่อเสียง และ ได้รับรางวัลจากบทละคร มั่นเจิน ในเรื่อง ปั้นเซิงหยวน มากมาย และเรื่องนี้ได้ออกอากาศ และเป็นที่รู้จัก ไปทั่ว จีน ใต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้
ในปีเดียวกันนั้น หลินซินหยูก็ได้มีโอกาศเล่นละครทีวีแนวโมแมนติก เรื่อง Boy & Girl (เมืองนี้มีแต่รัก)ซีรี่ย์เรื่องนี้ได้ออกอากาศที่จีน ทางสถานีโทรทัศน์ cctv ซึ่งทำเรตติ้งได้สูงสุด เหนือบรรดาซี่รี่ย์เรื่องอื่น ๆ ที่ออกอากาศอยู่ในปีนั้น (ปี 2003) ทำให้ชื่อของหลินซินหยูโด่งดังไปทั่วอีกเช่นกัน และในเรื่องนี้ทำให้หลินซินหยูได้รับคัดเลือกเป็นดาราที่ได้รับความนิยมจากใต้หวันอยู่ 1 ใน 10 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ของดาราจีน และในปีนั้น หลินซินหยูก็ได้ร่วมเล่นซีรี่ย์กำลังภายใน เรื่อง มีดบินทะลุฟ้า เป็นบทประพันธ์ของ Gu Long ถึงแม้ละครแนวกำลังภายในนี้จะไม่ใช่เรื่องแรกที่ซินหยูได้เล่น แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่พริกบทบาทของเธออย่างมาก จากบทผู้หญิงที่เรียบร้อย อ่อนโยน กลายมาเป็นนักฆ่าอย่างเลือดเย็น ละครซีรี่ย์ของหลิน ซินหยูในปี 2003 เหล่านี้ ได้พิสูจน์ถึงความสำเร็จของหลินซินหยูได้เป็นอย่างดี
ในปี 2004 ก็มีโครงการความร่วมมือระหว่าง จีน-เกาหลี ในการทำละครซีรี่ย์ขึ้นตามสมัยนิยม ที่ละครเกาหลีได้กระจายไปทั่ว ในเรื่อง Amor de Tarapaca, ซึ่งพระเอกเกาหลี ฮันเจซุก ก็ได้เข้ามาร่วมงานกับ หลินซินหยู และต่อมา ซินหยูก็ได้ร่วมงานกับทาง เกาหลี ในเรื่อง The megic touch of fate โดยความร่วมมือกันระหว่างจีนและเกาหลี โดยมี ซูโหย่วเผิงนักแสดงจากใต้หวันร่วมประกบด้วย กับ กังตะ ถือว่าเป็น top idol ของทางเกาหลีในขณะนั้น ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็ได้ใช้งบประมาณในการสร้างค่อนข้างสูงที่เป็นละครแนวสมัยใหม่ในตอนนั้น
หลังจากที่หลินซินหยูได้ทำงานตลอดที่ผ่านมา เธอก็คิดอยากกลับไปเรียนต่อตามที่เธอเคยฝันไว้ ในฤดุหนาวปี 2004 หลังจากที่แสดงซี่รี่ย์เรื่อง The megic touch of fate จบไปแล้วนั้น หลินซินหยูก็ได้เดินทางไปที่ นิวยอร์ค เพื่อไปเรียนภาษาและเรียนด้านการแสดงเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเธอเรียนภาษาที่ Embassy CES และเรียนการแสดงที่ New York Film Academy
เดือนก.พ ปี 2005 เมื่อหลินซินหยูกลับมาจาก นิวยอร์ค ด้วยความที่ได้มีโอกาสไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม แล้วก็กลับมารับงานแสดงต่อคือ Paris Sonata Sound of Colors, Star Boulevard , and Da Li Princess. สำหรับบทบาทในเรื่อง Paris Sonata ซินหยูต้องไปเรียนเปียโน ก่อนการแสดงเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากที่เล่นเรื่อง Paris Sonata ต่อมาหลินซินหยูก็ได้รับเลือกให้เล่นในเรื่อง Sound of colors ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำขึ้นใหม่ของ Jimmy Liao ในเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นดีเจ ตาบอด หลินซินหยูเล่นบทเป็นหญิงสาวตาบอดที่ผู้ชม คนดูต่างชื่นชอบเป็นอย่างมาก และเรื่องนี้ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าซินหยูแสดงได้ดีที่สุดเท่าที่ได้รับเล่นมา และเรื่องนี้ก็ได้แพร่ออกอากาศไปทั่ว ฮ่องกง ใต้หวัน ฟิลิปปิน ไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น และ USA จากนั้นซีรี่ย์อีก 2 เรื่องคือ Star Boulevard and Da Li Princess ก็เป็นซีรี่ย์ที่ได้ปล่อยออกมาในปี 2007
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ | |
| | | Ruenruthai ศิษย์หอจตุรเทพ
Number of posts : 158 Points : 0 Reputation : 0 Registration date : 26/04/2008
| | | | Ruenruthai ศิษย์หอจตุรเทพ
Number of posts : 158 Points : 0 Reputation : 0 Registration date : 26/04/2008
| | | | Ruenruthai ศิษย์หอจตุรเทพ
Number of posts : 158 Points : 0 Reputation : 0 Registration date : 26/04/2008
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: ประวัติหลินซินหยู Wed Apr 30, 2008 7:15 pm | |
| ผลงานละคร2008
The Legend and the Hero 2 2007
Su Dong Po (แขกรับเชิญ) 2006
. Ancestral Temple 2006
. Dali Princess 2005
. Stars Boulevarde 2005
. เมโลดี้สะดุดรัก (Sound of Colors) 2005
. Paris Sonata 2004
. The Magic Touch of Fate 2003
. Amor De Tarapaca 2002
. มีดบินทะลุฟ้า (Flying Daggers) 2002
เมืองนี้มีแต่รัก ( Boy & Girl) 2002
..Eighteen Springs 2001
จักรพรรดิ์จอมทะเล้น (Wulong Prince) แขกรับเชิญ 2001
.. Only You 2001
ไทเก็กจางซางฟง (Taiji Prodigy) แขกรับเชิญ 2001
ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มพรรคตาข่ายฟ้า (The New Adventures of Chor Lau Heung) 2000
..มนต์รักในสายฝน (Romance in the Rain) 2000
.อุ้ยเสี่ยวป้อ เทพบุตรไร้เทียมทาน (The Duke of Mount Deer 2000) 1999
. Legend of Master Soh 1999
.. องค์หญิงกำมะลอ ภาค 2 (Princess Returning Pearl II) 1998
. Food Glorious Food 1998
... Magic Chef 1998
................. องค์หญิงกำมะลอ (Princess Returning Pearl) 1997
........ The Last Tango in Shanghai 1997
.................Taiwan Lin Yi Shi Jian 台灣靈異事件 1995
.Taiwan Homicide Files ................................... Zhen Ai Shi Qing
. Angel Dust
Luan Shi Qing Yuan
..Long Nu
Three Of Them
Extraordinary Mission
เปาบุ้นจิ้น ตอน จอมโจรดอกเหมย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ภาพยนตร์
2008
. Evening Rose - 夜玫瑰 2005
.. Kill Two Birds with One Stone - 一石二鳥 2005
Dragon Blade - 龍刀奇緣 2004
ขบวนรักสลับขั้ว (Love Trilogy - 我愛天上人間) 2002
.............. เฉียดนาทีหยุดนรก (Life Express - 生死速遞) 2001
.ถ้าเป็นได้....ฉันขอลิขิตชีวิตเอง (Sliding Doors - 双面情人) 2001
.. ตายก็ยอม...ถ้าได้รักเธอ (Dragon's Love - 龍兒) 2001
.ตวัดเส้นรัก ไม่ให้พัลวัน (Comic King - 漫畫風雲) 2000
. เหินเกินนรก (China Strike Force - 雷霆戰警) 2000
.Winner Takes All - 大贏家 1999
..The Mirror - 魔鏡 1999
Bad Girl Trilogy - 惡女列傳之板凳皇后 1998
. My Wishes - 心願 1998
..A Matter Of Time 1995
.. School Days - 校園敢死隊
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เพลงประกอบละคร
2008
等待 Waiting, Ancestral Temple ending song 2007
. 滋味 Essence, insert song for Stars Boulevarde 2006
...天使別哭 Angel Don't cry, Paris Sonata ending song 2004
... 這一秒鐘 At The Moment, Amor De Tarapaca ending song 2003
...半生缘 Fated For Half a Lifetime, Eighteen Springs opening song 2003
擦肩而过 Passed Each Other By, Eighteen Springs ending song 1999
你是風兒我是沙 You Are Wind, I Am Sand, insert song for Princess Returning Pearl II 1999
夢裡 In Dreams, insert song for Princess Returning Pearl II 1998
. 雨蝶 Butterfly Rain, Princess Returning Pearl ending song
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ไดอารี่
2005
. My private in NewYork / 私藏心如
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
อัลบั้มรูป
2000.
.. Love In Great Britain / 英倫情人 1999
.Sharing / 心如心語 1999
... Spring Emotion / 春情
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
อัลบั้มเพลง
1999
Hearing 心跳 (Xin Tiao) 2000
. Face 2 Face 雙面林心如 (Shuang Mian Lin Xin Ru) 2001
.. Para Para 趴啦趴啦 (Pa La Pa La) 2004
... Eighteen Springs New + Best 半生缘新歌+精选 (Ban Sheng Yuan) 2004
.. possession 拥有林心如 (Yong You Lin Xin Ru)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ | |
| | | Ruenruthai ศิษย์หอจตุรเทพ
Number of posts : 158 Points : 0 Reputation : 0 Registration date : 26/04/2008
| | | | | ประวัติหลินซินหยู | |
|
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1 | |
Similar topics | |
|
| Permissions in this forum: | เธเธธเธเนเธกเนเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธเธเธดเธกเธเนเธเธญเธ
| |
| |
| |